ข้อคิดที่ได้จากการติดเกมส์ Monster Hunter

ข้อคิดที่ได้จากการติดเกมส์ Monster Hunter

การติดเกมส์อาจไม่แย่เสมอไป ผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจาก 400 ชั่วโมงในเกมส์ Monster Hunter World Iceborne

การเล่นเกมส์ Monster Hunter World เนี่ยสำหรับผมเปรียบเสมือนการจำลองการใช้ชีวิต แบบกลายๆ ก็ว่าได้ครับ

📗 ผมได้เรียนรู้อะไรจากการเล่นเกมส์นี้บ้าง

ไปรับฟังกันครับ...

สำหรับเกมส์ Monster Hunter World เนี่ย ผู้เล่นทุกคนจะได้เริ่มต้นเป็นนักล่าสัตว์ประหลาดครับ (ตรงตามชื่อเกมส์เลย) โดยที่ตอนเริ่มเกมส์เราจะได้สร้างตัวละครของตัวเอง เราอยากจะสร้างให้ตัวละครของเราเป็นเพศชาย หรือหญิงก็ได้ อยากจะให้อายุประมาณเท่าไหร่ก็ได้ (ไม่มีเด็กให้สร้างครับ เด็กสุดที่เป็นไปได้ก็คือวัยรุ่นนะ)

mh-character-creation-2.jpeg

ตัวละครของเราได้เดินทางมากับกองเรือลำดับที่ 5 สู่โลกใหม่หรือ New world เพื่อทำในสิ่งที่พวกเราตั้งหน้าตั้งรอ ก็คือการล่า Monster นั่นเองครับ

และแน่นอนว่าตอนเริ่มต้นตัวละครของเราก็ต้องอ่อนสุดๆ ใช้ได้แต่อาวุธกากๆ ที่หน้าตามันก็ดูไม่จืดเอาซะเลย และเราก็ทำได้เพียงแค่ทำเควสหาพวกของป่า หรือจัดการกับ Monster ระดับลูกกระจ็อก ได้เท่านั้นเอง เพราะหากเราไปสู้กับ Monster ตัวที่โหดๆตั้งแต่แรก รับรองว่าได้สลบกันทุกรายแน่นอนครับ เพราะแค่อาวุธของเรายังตีไม่เข้ามันเลย อาวุธจะพังซะก่อนด้วย!

great-jag.jpeg

ซึ่งถ้าเทียบกับชีวิตของเราละก็ คงเหมือนกับเวลาที่เรายังเป็นเด็กเป็นนักศึกษาอยู่ หรือตอนที่เราเริ่มทำงานใหม่ๆที่เราไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ในการทำ ดังนั้นเราก็ต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆก่อน เพราะถ้าหากเราเริ่มจากก้าวใหญ่ๆตอนที่เราไม่พร้อมหล่ะก็ รับรองว่าได้เจ็บหนักแน่ๆครับ

และนั่นก็นำมาสู่ ข้อคิดแรก

👣 เริ่มจากก้าวเล็กๆก่อน

การที่เราอยากประสบความสำเร็จบางอย่างนั้น เรามักมองที่ผลลัพธ์ของมันเสมอ เห็นคนอื่นทำได้และประสบความสำเร็จ เราก็อยากทำได้บ้าง และเรามักจะอยากได้เร็วๆด้วย

อยากเป็นมหาเศรษฐีจากการลงทุนหุ้น แต่ต้องล้มละลายเพราะใช้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตไปลงกับหุ้นที่เราไม่รู้จัก

อยากเล่นกีต้าร์ให้เก่ง แต่เริ่มเล่นจากเพลงที่ยากๆ เพราะอยากเก่งไวๆ สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไปเพราะเล่นไม่ได้ซักที

อยากเป็น Developer แต่เริ่มเรียน React ก่อนที่จะเขียน JavaScript เป็น สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกเพราะเขียนยังไงก็เขียนไม่เป็น

นักล่า Monster ที่เก่ง ทุกคนเริ่มจากการเก็บของป่า และล่า Monster ชั้นลูกกระจ็อกกันทั้งนั้นแหละครับ :)

มาต่อกันที่ตัวเกมส์...

หลังจากที่เราเริ่มทำเควสเล็กๆเหล่านั้นเสร็จ เราก็จะเริ่มสะสมทั้งเงินในเกมส์ รวมถึงวัตถุดิบต่างๆที่ Drop มาจาก Monster ที่เราจัดการไป และที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นก็คือ ความชำนาญในการใช้อาวุธที่เราเลือกครับ

พอถึงขั้นนี้แล้ว เราจะสามารถ Upgrade อาวุธของเราให้เป็นอาวุธที่ดีขึ้น ทั้งดาเมจที่รุนแรงขึ้น ความแหลมคมที่มากขึ้น และที่สำคัญคือความเท่ของมัน ที่เมื่อเราได้มาแล้วจะรู้สึกภูมิใจกับมันอย่างมาก

เช่นเดียวกันกับชุดเกราะครับ เราสามารถ Craft ชุดเกราะที่มีพลังป้องกันที่สูงขึ้น ต่อให้โดน Monster โหดๆตีก็สามารถทนได้ และชุดเกราะยังมี Skill ที่แตกต่างกันซ่อนอยู่ด้วย ทำให้ผมสนุกไปกับการเลือกชิ้นส่วนของชุดเกราะและ Skill ต่างๆที่ผสมกันได้หลากหลายแบบสุดแล้วแต่จะจินตนาการเลยครับ

light-break.jpg

อาวุธในเกมส์นี้มีทั้งหมดกว่า 14 ชนิดครับ และแต่ละชนิดก็ Upgrade ได้หลายสิบแบบ ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ และวิธีการใช้ก็แตกต่างกันทุกชิ้น

เราไม่จำเป็นต้องเลือกใช้อาวุธเพียงชิ้นเดียวก็ได้ในการเล่น แต่การที่เราเลือกอาวุธชิ้นหลักของเรานั้น ย่อมดีกว่าการที่เราเปลี่ยนอาวุธไปเรื่อยๆครับ

เพราะว่าการจะ Upgrade อาวุธแต่ละครั้งนั้นต้องใช้ทั้งเงินและวัตถุดิบในเกมส์มาแลก และกว่าจะได้เงินหรือวัตถุดิบแต่ละชิ้นมาหล่ะก็ไม่ง่ายเลยหล่ะครับ โดยเฉพาะเวลาต้องสู้กับ Monster ตัวโหดๆนี่สิ

ดังนั้นถ้าเราอยากพัฒนาได้ไว เราก็จะพยายาม Upgrade อาวุธชิ้นที่เราใช้เป็นหลักให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้มีสุดยอดอาวุธมาใช้ปราบ Monster โหดๆ (ส่วนตัวผม ผมเลือกดาบใหญ่หรือ Great sword ครับ)

และนั่นก็นำมาสู่ ข้อคิดที่สอง

☝🏼 ตั้งใจทำสิ่งๆหนึ่งให้เก่งไปเลย ดีกว่าทำหลายๆสิ่งแบบครึ่งๆกลางๆ

การมีสุดยอดอาวุธเพียงชิ้นเดียว ดีกว่าการมีอาวุธธรรมดาๆหลายๆชิ้นครับ (ผมพิสูจน์มาแล้วในเกมส์!)

ซึ่งนี่ก็เหมือนชีวิตเราอีกเช่นกัน เวลาที่เราเรียนอะไร หรือพยายามจะทำอะไรบางอย่าง หลายๆครั้งสิ่งที่เราทำคือ เราทำแต่ละสิ่งแบบครึ่งๆกลางๆ แล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น

ลองเขียนนิยายดู 20 หน้า พอเบื่อหรือคิดตอนต่อไปไม่ออก ก็เลิก

มาลองเรียนเขียนโปรแกรมดูซัก 3 วัน พอรู้สึกว่ามันยากเกินไปและไม่อยากเรียนต่อ ก็เลิก

ลองเปลี่ยนไปทำอาหาร พออาหารจานแรกออกมาไม่อร่อย ก็เลิกไปซะอย่างงั้น

สิ่งนี้มาจากชีวิตของผมเองเลยครับ...

ผมกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ตั้งใจทำอะไรให้นานขึ้นอยู่ และอยากชวนคุณผู้อ่านให้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกันครับ :)

มาต่อกันที่เกมส์...

เมื่อเราเล่นเกมส์นี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะพบว่าตัวละครของเรา แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สามารถเอาชนะ Monster ตัวที่เก่งขึ้นไปได้เรื่อยๆ ส่วนเจ้า Monster ตัวก่อนๆหน้า ที่เราเคยคิดว่าจัดการยากหนักหนา ก็กลายเป็นขนมของเราไปซะแล้ว

และในที่สุดเราจะสามารถเอาชนะบอสตัวสุดท้ายและเคลียร์เนื้อหาหลักของเกมส์ได้สำเร็จครับ (เย่)

shara.jpeg

จนถึงตรงนี้หลายๆคนก็อาจจะพอ และวางมือจากเกมส์นี้แล้ว แต่สำหรับอีกหลายๆคน รวมถึงผมด้วย เลือกที่จะเล่นเกมส์นี้ต่อ เพราะว่าในเกมส์นี้ยังมีเควสที่เราจะต้องเจอกับ Monster ที่เก่งยิ่งกว่าเจ้าบอสตัวสุดท้ายตามเนื้อหาหลักอยู่อีก

ขอยกตัวอย่าง Monster ตัวนึงใน Monster Hunter World Iceborne ที่ผมเคยสู้ด้วยนั่นก็คือ Arch Tempered Velkhana

at-velk.png

เจ้ามังกรน้ำแข็งตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นปีศาจเลยหล่ะครับ ทั้งการโจมตีที่มีลักษณะเป็นวงกว้าง โจมตีได้ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล และขอบอกเลยว่าเราพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เพราะดาเมจของมันนั้นรุนแรงมาก!

ขอแค่โดนเศษน้ำแข็งสะกิดนิดเดียว รับรองล้มกันทุกราย...

แค่นั้นยังไม่พอเจ้านี่ยังอึดถึกทนมากๆอีกต่างหาก ไม่ว่าจะตีมันด้วยดาเมจที่รุนแรงไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ มันก็ดูเหมือนจะสบายดีและไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย...

strong-meme.jpeg

ผมรู้ถึงความร้ายกาจของมันจากการดูคลิป Youtube ของคนอื่นที่เคยสู้กับเจ้ามังกรตัวนี้ ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้สู้กับมันด้วยซ้ำ

และผมติดนิสัยอย่างหนึ่งคือผมอยากที่จะชนะ Monster แต่ละตัวด้วยการพยายามแค่ไม่กี่ครั้ง และผมไม่ชอบเห็นตัวละครของผมแพ้ให้กับ Monster เพราะผมไม่ชอบความพ่ายแพ้ และอีกอย่างถ้าแพ้แล้วเราจะต้องเสีย ยาและอุปกรณ์ต่างๆที่เราใช้ไปในการต่อสู้ฟรีๆอีกด้วย

นั่นทำให้เมื่อผมลองสู้กับมันไปซัก 3 - 4 ครั้งและพ่ายแพ้ทุกครั้ง ทำให้ผมไม่กล้าที่จะสู้กับเจ้า Arch Tempered Velkhana ต่อ

sad-meme-mod.jpg

เหมือนหลายๆครั้งในชีวิตของเราครับ ที่เราอยากจะล้มเลิกเวลาเราเจอสิ่งท้าทายใหม่ๆที่ยากเกินไป

อย่างเช่นการที่เราพยายามจะเรียนรู้ในส่ิงที่เราไม่ถนัด ไม่ว่าจะเป็น ภาษาอังกฤษ การเขียนโปรแกรม การพูดในที่สาธารณะ และอื่นๆอีกมากมาย

เมื่อเราคิดว่ามันยากเกินไป และเราต้องจ่ายราคาเมื่อเราทำมันออกมาไม่ได้ดี เช่น เราอาจจะขายหน้าคนอื่นเวลาที่เราหัดพูดภาษาอังกฤษตอนแรกๆ เพราะเรายังพูดไม่เก่ง เราอาจจะโดนคนที่เขียนโปรแกรมมาก่อนเราดูถูกถ้าหากเราเขียนโปรแกรมออกมาได้ไม่ดี หรือเราอาจจะต้องอายเวลาที่เราลืมบทพูดเวลาต้องพูดต่อหน้าสาธารณะ

และนี่ก็นำมาสู่ ข้อคิดที่สาม

🏃🏻‍♂️ กล้าที่จะล้ม เพื่อก้าวไปข้างหน้า

ผมไม่มีทางชนะเจ้ามังกรสุดโหดตัวนี้ได้ ถ้าหากผมไม่ได้ลองสู้กับมันให้มากพอ จนผมสามารถคาดเดาทุกการเคลื่อนไหวของมันได้

ผมตัดสินใจใหม่ว่าจะชนะเจ้ามังกรตัวนี้ให้ได้ แต่ผมไม่ได้คิดจะชนะภายในการสู้เพียงไม่กี่ครั้ง

ผมต้องเตรียมใจที่จะแพ้ไปตั้งแต่ก่อนเริ่มสู้! และเป้าหมายของการสู้ในครั้งแรกๆนั้น ไม่ใช่เพื่อเอาชนะมัน แต่เพื่อสังเกตการเคลื่อนไหว และเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของมัน

ผมน่าจะโดนเจ้ามังกรตัวนี้ซัดจนหมอบมามากกว่า 100 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว (ผมใช้เวลาเป็นสัปดาห์ๆ ไม่ได้นั่งเล่นแค่วันเดียว) แต่ในทุกๆครั้งที่แพ้มัน ผมพบว่าตัวเองเก่งขึ้น และเข้าใจวิธีการสู้กับมันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

นานวันเข้าผมสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหว และเข้าใจทุกท่วงท่าของมัน และหลบหลีกได้เหมือนกับเต้นระบำ

และในที่สุด ผมสามารถหลบทุกการโจมตี และอาศัยช่องว่างเหล่านั้นโจมตีมันกลับไป และเอาชนะมันได้ในที่สุด

happy-meme-mod.jpg

เหมือนกับชีวิตของเราครับ เวลาที่เราตั้งเป้าหมายที่ใหญ่และยาก

เราต้องเข้าใจว่าเราต้องล้มลุกคลุกคลานก่อน อาจจะต้องเจ็บบ้าง ต้องผิดหวังบ้าง ต้องจ่ายราคาบางอย่างบ้าง

แต่รับรองว่าถ้าเราพยายามแล้วเราล้มบ้าง ไม่ได้แปลว่าเราย่ำอยู่กับที่ แต่เรากำลังก้าวไปข้างหน้าครับ

ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องล้ม ก็เตรียมตัวที่จะล้มไปให้ดีๆ และเรียนรู้จากการล้มทุกครั้งให้ได้

การกล้าที่จะล้มย่อมดีกว่าการไม่กล้าที่จะเดิน

ไม่มีเด็กคนไหนที่เดินได้โดยไม่เคยล้ม คุณผู้อ่านก็เคยผ่านจุดๆนั้นมาแล้ว จริงมั้ยครับ:)

แล้ววันนึงเราจะสามารถปราบเจ้ามังกรตัวนั้นได้อย่างแน่นอน...

.

สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าการเล่นเกมส์นี้จนจบได้เป็นเรื่องนี่น่าภาคภูมิใจก็จริงครับ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเอาชนะเกมส์นี้ คือการที่เรามีความสุขในการพัฒนาตัวเอง และตัวละครของเรา มาตลอดทางต่างหาก

มันจะไม่มีความหมายเลยถ้าเราเล่นเกมส์นี้ด้วยสูตรโกง ที่ทำให้เราชนะ Monster ทุกตัวโดยไม่ต้องสู้กับมัน ไม่ต้องคิดวางแผนว่าเราจะทำเควสอะไรบ้าง ไม่ต้องตะเกียกตะกายหาไอเทมที่สุดแสนจะยาก เพื่อนำมา Craft อาวุธในตำนาน และไม่ได้ลองโดน Monster ซัดจนอ่วมหลายต่อหลายครั้ง...

เพราะฉะนั้น จึงนำมาสู่ ข้อคิดสุดท้าย

🙏🏼 มีใจขอบคุณในทุกสถานการณ์

การที่เราได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆในชีวิต ได้พบเจอคนหลากหลายประเภท ได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ มากมาย

หลายๆครั้งเราต้องเจอกับอุปสรรคที่ทำให้เราเหนื่อย เจอประสบการณ์ที่ทำให้เราเจ็บ

เจอคนที่ไม่น่ารักกับเรา

เจอความผิดหวังที่ตัวเองทำสิ่งใหม่ๆแล้วล้มเหลว...

แต่ผมอยากจะบอกคุณผู้อ่านว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเราควรรู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้น ที่ทำให้เราเป็นตัวเราในวันนี้ :)

ความสำเร็จและเงินทองจะไม่มีค่าเลย ถ้าเราไม่ได้มีความสุขในยามที่เราใช้แรงกายและแรงใจในการไขว่คว้ามัน

และชีวิตนี้จะไม่มีความหมายเลย ถ้าเราไม่ได้แบ่งปันมันกับคนที่เรารัก

.

ผม Coding Beaver ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ

ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนครับ

📖 เรียนรู้เพิ่มเติม